เคยมีคนบอกว่า เมื่อใดที่พระเจ้าต้องการชำระล้างโลกที่พระองค์สร้าง พระองค์จะเลือกประชากรผู้ที่จะไม่ทรยศและเมินเฉยพระองค์ไว้ 3ส่วนจากประชากรทั้งหมดของพระองค์..
วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012
ฉันยืนอยู่บนดาดฟ้าตึกสูงแห่งหนึ่ง และมองลงมายังพื้นเบื้องล่าง ผู้คนที่อยู่เบื้องล่างต่างกำลังวิ่งชนกันดูวุ่นวาย บนถนนก็เต็มไปด้วยอุบัติเหตุ รถติดยาวเหยียด นี่อาจเป็นเพราะผู้คนคงไม่มีกระจิตกระใจจะรักษากฎจราจรกันซักเท่าไหร่ หลังจากเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว สถานีโทรทัศน์ทุกสถานีได้พร้อมใจกันประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า
'จากการรายงานของนักวิชาการด้านธรณีวิทยา นักพยากรณ์อากาศ และนักวิชาการสาขาอื่นๆ ได้กล่าวว่า ในเวลาอันใกล้นี้ จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติทุกรูปแบบ และทั่วทุกมุมโลก จึงขอประกาศให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้หาที่หลบภัยที่มิดชิดและปลอดภัยที่สุด และเตรียมเสบียงไว้ให้พร้อม'
ส่วนฉันน่ะหรอ? ฉันไม่หนีหรอก และกำลังทำในสิ่งที่คนอยากรอดตายไม่ทำด้วย
ฉันเดินเข้าใกล้ขอบตึกมากยิ่งขึ้น และสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่ฉันจะกระโดดลงไป!!! ฉันดิ่งพสุธาตามแรงดึงดูดของโลก ผู้คนที่อยู่เบื้องล่างเริ่มหยุดการกระทำของพวกเขา แล้วมองมาที่คนคิตสั้นอย่างฉัน ด้วยความตกตะลึง
ถ้าจะถามว่าทำไมฉันถึงทำอะไรโง่ๆอย่างนี้น่ะหรอ?
ฉันน่ะเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่โตมาในโบสถ์เล็กๆที่อยู่นอกชานเมืองเท่านั้น ถึงฉันจะโตมากับคำสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ตลอดมา แต่ฉันน่ะไม่มีค่าพอที่จะมีชีวิตอยู่หรอก เพราะฉันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้คนที่วิ่งวุ่นวายอยู่ตอนนี้หรอก
จู่ๆเวลาก็หยุดลง ทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนหยุดนิ่ง แม้แต่นกก็ยังหยุดอยู่กลางอากาศ แล้วเท้าฉันก็แตะถึงพื้นโดยปลอดภัย ก่อนทุกสรรพสิ่งจะคืนสู่สภาพเดิม ฉันแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
"ตอนนี้เจ้าไม่อาจตายได้ เพราะเจ้าเป็นผู้ที่เราคัดสรรแล้ว เราจะให้เจ้าเป็นผู้เผยแพร่คำสอนของเราในดินแดนใหม่ของเรา ในโลกใหม่ของเรา"
พระเจ้ากล่าวกับฉันผ่านนิมิตของฉันเรื่อยมา และฉันก็อ้อนวอนพระองค์เรื่อยมาเช่นกัน
"ลูกซาบซึ้งในพระเมตตาของพระองค์ที่มีต่อลูก แต่ลูกไม่อาจรับพระเมตตาของพระองค์ได้ หากเพื่อนพ้องของลูกต้องล้มตายจากไป ลูกก็พึงพอใจที่จะตายไปพร้อมกับพวกเขา"
ไม่นานฝนก็กระหน่ำลงมาจากฟากฟ้า และตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ภัยพิบัติได้เริ่มขึ้นแล้วสินะ จากนั้นแผ่นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน ตามด้วยกระแสน้ำทะเลที่ซัดเข้าฝั่งอย่างแรง และแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นคลื่นยักษ์ซัดฝั่ง พายุฝนพัดผู้คน บ้านเรือน และรถรา ปลิวว่อนไปทั่ว ส่วนระดับน้ำที่เกิดจากฝนตกก็สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไร ก็ไม่มีผลอะไรกับฉันทั้งสิ้น เพราะตัวฉันเหมือนมีบางสิ่งที่มองไม่เห็นคุ้มครองอยู่ แม้แต่น้ำที่นองพื้นอยู่ เพียงแค่ฉันเดินเข้าไปใกล้ มันก็จะเหือดแห้งลงทันที เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ร่างกายของฉันเริ่มอ่อนเพลียมากขึ้น ฉันจึงนั่งลงและผลอยหลับไป
.........................
ฉันตื่นขึ้นมาท่ามกลางทุ่งหญ้าโล่งกว้าง ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็จะพบแต่ทุ่งหญ้าสีทองตัดกับสีท้องฟ้ายามราตรี ฉันมองไปรอบๆก่อนสายตาของฉันจะไปสะดุดกับต้นไม้ใหญ่ที่ส่องแสงสีเงินสว่างไสว มันอยู่ห่างออกไปไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ฉันลุกขึ้นและมองไปทางต้นไม้สีเงินต้นนั้น เหมือนแสงสีเงินนั้น จะชักชวนให้ฉันเดินเข้าไปหาฉันจึงเดินตามแสงนั้นไป และยิ่งฉันเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ต้นนั้นมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่นเห็นสิ่งมีชีวิตมากมายที่มีชะตากรรมเดียวกับฉัน ไม่ว่าจะเป็นเก้ง กวาง ช้าง หรือแม้แต่สัตว์กินเนื้ออีกหลายชนิด พวกเขาต่างเดินมุ่งหน้าไปจุดหมายเดียวกับฉันคือ ต้นไม้ต้นนั้น และใต้ต้นไม้นั้นก็มีชายผู้หนึ่งได้ยืนอยู่ก่อนแล้ว
'ตำนานบทใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว'
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น